16 วิธีแก้ปัญหา รองเท้าเหม็น ได้ผลจริง
1. หนังสือพิมพ์
ขยำกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นก้อนแล้วใส่ไว้ในรองเท้าทิ้งไว้ข้ามคืน สารเคมีจากหมึกพิมพ์จะช่วยดูดซับความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างดี
2. เปลี่ยนรองเท้าบ้าง
ควรสลับใส่รองเท้าให้หลากหลาย ไม่ควรใส่คู่เดิมซ้ำกันหลายวัน เพื่อให้รองเท้าได้ระบายอากาศและลดการสะสมของแบคทีเรีย
3. สเปรย์ดับกลิ่นรองเท้า
ใช้สเปรย์ดับกลิ่นที่มีเอนไซม์ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นรองเท้า
4. เบกกิ้งโซดา
โรยเบกกิ้งโซดาในรองเท้า ทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วเคาะออกก่อนนำมาใส่ วิธีนี้ช่วยดูดกลิ่นและความชื้นได้ดี
7. แผ่นอบแห้ง
หากรองเท้ามีกลิ่นเหม็นมาก สามารถใช้แผ่นอบแห้งรองใต้แผ่นรองเท้า เพื่อช่วยดูดกลิ่น
10. น้ำมันหอมระเหย
หยดน้ำมันหอมระเหย เช่น ลาเวนเดอร์ หรือทีทรีออยล์ ลงในรองเท้า 1-2 หยด จะช่วยฆ่าเชื้อและทำให้รองเท้ามีกลิ่นหอม
13. ช่องแช่แข็ง
ใส่รองเท้าในถุงซิปล็อก แล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็งข้ามคืน ความเย็นจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่น
16. กากกาแฟ
นำกากกาแฟที่ใช้แล้วใส่ในถุงน่อง แล้วนำไปวางในรองเท้า ทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อดูดซับกลิ่นเหม็น
5. น้ำส้มสายชู
ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำในปริมาณเท่ากัน ฉีดพ่นในรองเท้าและตากไว้ 30 นาที จากนั้นโรยเบกกิ้งโซดาทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อช่วยดูดกลิ่น
8. สำลีชุบแอลกอฮอล์
นำสำลีชุบแอลกอฮอล์มายัดในรองเท้า ทิ้งไว้สักพัก แอลกอฮอล์จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดกลิ่นเหม็น
11. หมั่นซักรองเท้า
สำหรับรองเท้าผ้าใบ ควรซักเป็นประจำ โดยใช้เครื่องซักผ้าในโหมดน้ำเย็น และตากให้แห้งสนิท
14. แผ่นรองรองเท้าแบบกำจัดกลิ่น
เลือกใช้แผ่นรองรองเท้าที่มีคุณสมบัติช่วยดูดกลิ่น จะช่วยลดกลิ่นอับตั้งแต่ต้นทาง
6. ถุงชาดำ
นำถุงชาดำที่ใช้แล้วไปใส่ในรองเท้าทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง สารแทนนินในชาจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น
9. เปลือกมะนาวและเปลือกส้ม
นำเปลือกมะนาวหรือเปลือกส้มใส่ในรองเท้าทิ้งไว้ข้ามคืน เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกช่วยดับกลิ่น
12. ทรายแมว
นำทรายแมวใส่ในถุงน่องและยัดลงในรองเท้า ทิ้งไว้ข้ามคืน ทรายแมวจะช่วยดูดซับความชื้นและกลิ่นเหม็น
15. แป้งข้าวโพด
นำแป้งข้าวโพด เบกกิ้งโซดา และผงฟู มาผสมกัน เทใส่ในถุงน่องแล้วนำไปใส่ในรองเท้า ทิ้งไว้ข้ามคืน กลิ่นจะจางลง
โรคที่อาจเกิดจากปัญหาเท้าเหม็น
ปัญหา เท้าเหม็น อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับเท้า และอาจนำไปสู่โรคต่างๆ ได้ เช่น:
เชื้อราที่เท้า (Athlete’s Foot)
- เกิดจากเชื้อรากลุ่ม Dermatophytes ที่เจริญเติบโตในสภาพอับชื้น
- อาการ: คัน ลอก แดง มีตุ่มน้ำ หรือผิวแตกลอกบริเวณง่ามนิ้วเท้า
- การป้องกัน: รักษาความสะอาดเท้าให้แห้ง และหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าที่อับชื้น
โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema หรือ Contact Dermatitis)
- เกิดจากการแพ้สารระคายเคือง เช่น สบู่ น้ำยาซักผ้า หรือรองเท้าที่ไม่เหมาะสม
- อาการ: ผิวแดง คัน แห้ง ลอก อาจมีตุ่มน้ำ
- วิธีป้องกัน: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและสวมรองเท้าที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
กลากที่เท้า (Tinea Pedis)
- โรคผิวหนังจากเชื้อรา มักเกิดในคนที่เท้าอับชื้น
- อาการ: ผิวแตก แสบ คัน และอาจมีกลิ่นเหม็น
- การป้องกัน: เปลี่ยนถุงเท้าบ่อยๆ และเลือกใส่รองเท้าที่ระบายอากาศดี
เชื้อราที่เล็บเท้า (Onychomycosis)
- เกิดจากเชื้อราแพร่กระจายจากผิวหนังเข้าสู่เล็บ
- อาการ: เล็บหนา เปลี่ยนสี มีกลิ่นเหม็น หรือเปราะแตก
- การรักษา: ใช้ยาต้านเชื้อราและตัดเล็บให้สะอาดสม่ำเสมอ
การติดเชื้อแบคทีเรีย (Pitted Keratolysis)
- เกิดจากแบคทีเรียที่ทำให้เท้ามีกลิ่นเหม็นรุนแรง
- อาการ: ผิวหนังเป็นหลุมเล็กๆ มีน้ำเหลือง และส่งกลิ่นเหม็น
- การป้องกัน: ล้างเท้าให้สะอาดและใช้แป้งลดความชื้น
โรคเบาหวานและปัญหาเท้าเบาหวาน (Diabetic Foot)
- คนเป็นเบาหวานมีความเสี่ยงต่อแผลที่เท้า และการติดเชื้อรุนแรงหากไม่ดูแลดี
- อาการ: เท้าแห้ง ชา แผลหายช้า และอาจติดเชื้อได้ง่าย
- การดูแล: ตรวจสอบเท้าทุกวัน รักษาความสะอาด และพบแพทย์หากมีบาดแผล
สรุป
ปัญหา รองเท้าเหม็น สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีที่เป็นอันตราย เพียงแค่ดูแลรองเท้าให้สะอาด แห้ง และระบายอากาศอย่างเหมาะสม พร้อมใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการกำจัดกลิ่น เท่านี้ก็จะช่วยให้รองเท้าคู่โปรดของคุณไม่มีกลิ่นเหม็นมากวนใจอีกต่อไป
และสำหรับคนที่ต้องการหาเงินด่วน อยากทำกำไรทุกวันง่ายๆ เพียงสมัครสมาชิกกับเราไม่กี่ขั้นตอน ที่ Global Lotto ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ก็เล่นได้ ใช้ทุนไม่กี่บาทรับคืนหลักพัน 100% อย่าลืมใส่รหัสแนะนำ DW368 เพื่อรับโปรโมชั่นพิเศษ โบนัสเงินคืน 1,000 บาททันที รีบเลยก่อนโบนัสจะหมด สมัครสมาชิกที่นี่ >>