การเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะสมกับการใช้งานและรูปเท้าของเราเป็นสิ่งสำคัญ เพราะรองเท้าที่ใส่แล้วสบายจะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บและช่วยให้รู้สึกสะดวกสบายตลอดวันครับ
ในขณะที่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอาการเจ็บเท้า และปัญหาอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็น ปวดข้อเท้า ปวดฝ่าเท้า รวมถึงอาจจะยาวไปถึงปวดหลัง ปวดคอได้เลยนะครับ
รองเท้าใส่แล้วเจ็บมีอะไรบ้าง (ไม่ต้องไปเลือกใส่กันนะครับ)

1.1 รองเท้าที่คับเกินไป
- รองเท้าที่เล็กเกินไปหรือคับแน่นในบางจุด เช่น ที่ปลายเท้า หรือที่ข้อเท้า สามารถทำให้เกิดการบีบรัดและกดทับส่วนต่างๆ ของเท้า ทำให้เจ็บ หรือเกิดพุพอง
- บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บบริเวณข้างเท้าหรือข้อนิ้วเท้าเมื่อรองเท้าคับเกินไป
1.2 รองเท้าที่มีพื้นแข็ง
- รองเท้าที่พื้นแข็งเกินไปและไม่มีการรองรับแรงกระแทกจะทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อเดินไปในระยะเวลานาน โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องเดินบนพื้นแข็ง เช่น ทางเดินหินหรือคอนกรีต
- รองเท้าที่ไม่มีการรองรับแรงกระแทกอย่างดีอาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดขา หรือเจ็บเท้าได้
1.3 รองเท้าที่ไม่พอดีกับรูปเท้า
- รองเท้าที่ไม่พอดีกับรูปเท้าของเราจะทำให้เกิดการเสียดสี ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลพุพอง หรือแผลถลอกบริเวณต่างๆ ของเท้า
- รองเท้าที่ไม่มีการรองรับส่วนโค้ง (arch support) ของเท้าอาจทำให้เกิดปัญหาปวดเท้า หรือปวดบริเวณอุ้งเท้า
1.4 รองเท้าส้นสูง
- รองเท้าส้นสูงที่มีส้นสูงเกินไปจะทำให้เกิดความไม่สมดุลในการเดินและทำให้เกิดแรงกดที่ส่วนหน้าเท้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บเท้าและปวดขา
- การยืดหรืองอเท้ามากเกินไปจากการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดการอักเสบที่ข้อเท้า หรือทำให้เกิดปัญหาที่หลังได้
รองเท้าใส่แล้วสบาย (เลือกตามนี้ได้เลยครับ)
2.1 รองเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้า
- รองเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้าจะทำให้ความดันหรือการบีบอัดไม่เกิดขึ้น ช่วยให้เดินได้สะดวกและสบาย
- การเลือกขนาดรองเท้าที่เหมาะสมจะช่วยให้เท้าของเรามีพื้นที่พอสมควรในการเคลื่อนไหวโดยไม่รู้สึกคับหรือบีบ
2.2 รองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทก (Cushioning)
- รองเท้าที่มีเทคโนโลยีการรองรับแรงกระแทก เช่น พื้นรองเท้าหรือแผ่นรองที่ช่วยลดแรงกดจากการเดินหรือวิ่ง สามารถช่วยให้การเดินสบายขึ้นและลดอาการเจ็บปวดที่ขาหรือหลัง
- พื้นรองเท้าที่ทำจากวัสดุนิ่ม เช่น EVA หรือ Memory Foam จะช่วยรองรับน้ำหนักและกระจายแรงกดจากการเดิน
2.3 รองเท้าที่มีการรองรับอุ้งเท้า (Arch Support)
- รองเท้าที่มีการรองรับอุ้งเท้าจะช่วยให้การเดินของเราสมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่มีอุ้งเท้าต่ำหรือสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บปวดหรือปัญหาการบิดของข้อเท้า
2.4 รองเท้าที่มีส้นต่ำ
- รองเท้าที่มีส้นต่ำหรือเป็นรองเท้าผ้าใบที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยให้เดินได้สะดวกและลดการบิดหรือบาดเจ็บจากการเดินหรือวิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเท้าอยู่ในท่าที่เป็นธรรมชาติ
2.5 รองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี
- รองเท้าที่มีวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้า Mesh หรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีการระบายอากาศ ช่วยให้เท้าของเรารู้สึกเย็นและแห้ง ไม่อับชื้น ลดการเสียดสีและอาการเจ็บที่เกิดจากการเหงื่อ
2.6 รองเท้าที่มีการยืดหยุ่นและความนุ่มนวล
- รองเท้าที่ทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยให้เราสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวและไม่ทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อเคลื่อนไหว
สรุป
การเลือก รองเท้า ที่เหมาะสมกับ ขนาดเท้า, รูปเท้า, และ กิจกรรม จะช่วยให้การเดินหรือยืนสะดวกสบายและป้องกันการเจ็บเท้าได้
รองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทก, การรองรับอุ้งเท้า, และวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดีมักจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใส่แล้วสบายครับ
ส่วนใครอยากหาเงินซื้อรองเท้าใหม่ แวะเข้ามาได้ที่ Globallotto นะครับ เรามีหวยไว แบบถูกกฎหมาย มีใบอนุญาต ส่วนหวยทางการอย่างหวยไทยจ่ายต่ำสุดบาทละ 98 บาทครับ สูงสุดบาทละ 8,800 บาท